โมนาลิซ่ากับรอยยิ้มปริศนากับภาพวาดที่ดังที่สุดในโลก

นายตะขบจะขอมาเล่าว่าทำไมโมนา ลิซ่าถึงเป็นภาพวาดที่ดังที่สุดในโลก บางคนบอกว่าเป็นเพราะรอยยิ้มปริศนา บางคนบอกเป็นเพนาะสายตาของเธอที่ไม่ว่าจะอยู่ในมุมไหนของห้องก็เหมือนถูกมองตามที!!

Mona Lisa หรือในภาษาอิตาลี Monna Lisa ต้องมีตัว n สองตัวเพราะจะแปลได้ว่า คุณหญิงลิซ่า เป็นภาพวาดของ Leonardo da Vinci แต่ชื่อที่เจ้าของผลงานตั้งไว้จริงๆคือ La Gioconda แปลว่า เธอคนที่มีความสุข เป็นการเล่นคำเพราะมันไปพ้องกับ Giocondo ที่เป็นนามสกุลหลังแต่งงานของลิซ่า

ภาพนี้สามีของลิซ่าเป็นคนสั่งซื้อให้ลีโอนาโดวาด เป็นการฉลองลูกคนที่สองของครอบครัว และอาจเป็นต้นเหตุของรอยยิ้ม แต่รูปนี้คนสั่งซื้อไม่เคยได้รับงานที่สั่งไปเลย เพราะเลโอนาโดไม่ให้ แต่กลับพารูปนี้เดินทางไปกับเขาทุกที่
(ขนาดไม่ได้ใหญ่อย่างที่หลายคนคิด)

ลีโอนาโด พารูปวาดโมนาลิซ่าไปโชว์ตามที่ต่างๆ เพื่อโชว์ความสามารถของตัวเอง รูปนี้ดังในวงการศิลปะเพราะลีโอนาโดใช้คิดค้นเทคนิคที่เรียกว่า sfumato หรือแปลว่าการวาด’ชั้นบรรยากาศ’ และใช้เทคนิคนี้กับพื้นหลัง(ที่เป็นภูเขา) ทำให้ภาพดูลึกลับและน่าค้นหา

Sfumato จะเห็นได้ว่า อะไรที่ยิ่งไกลออกไปยิ่งเห็นเป็นสีฟ้า ภายหลัง นักวิทยาศาสตร์ก็ออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องจริง (อากาศระหว่างสายตากับวัตถุที่มีมากทำให้ดูเป็นสีฟ้าๆ)

คือจะเห็นได้ว่า สีของรูปนี้ไม่มีความสวยเลย ทำไมมันดูเหลืองๆไปหมด ที่จริงดั้งเดิมมันสวยกว่านี้มาก แต่โดนน้ำยาเคลือบล้างกัดจดหมด สีที่แท้จริงของโมนาลิซ่าสามารถเดาได้จาก ภาพโมนาลิซ่าที่เป็นเวอร์ชั่นของศิลปินท่านอื่นๆในยุคเดียวกัน(ลูกศิษย์ลีโอนาโด)
รูปทางซ้ายวาดโดยคุณ Prado


 

 

 

 

 

รูปนี้ดังในหมู่คนสนใจศิลปะมานานมากๆแล้ว ตั้งแต่เรเนซองค์แต่มาบูมในหมู่คนทั่วไปไม่นานนี้เอง เพราะรูปนี้ถูกขโมย! มีความลือเรื่องการถูกขโมยหลากหลายรูปแบบมาก แต่ที่ดังที่สุดคือช่วงสงครามโลก ที่ลือว่าทหารอิตาลีขโมยภาพแล้วม้วนใส่ในกระเป๋า
แต่ไม่มีความเป็นไปได้เลย เพราะรูปนี้วาดบนไม้

แต่เรื่องที่เคยถูกขโมยจริงๆเกิดจากคนที่ทำงานในพิพิธภัณฑ์ลูฟว์เอง เป็นคนงานที่ถอดรูปออกไปเก็บในห้องเก็บของและตั้งใจขายให้กับพิพิธภัณฑ์ของอิตาลี (ไม่สำเร็จ โดนจับได้ก่อน) เพราะชาวอิตาลีมีความเชื่อว่ารูปนี้ควรอยู่ที่บ้านเกิดของลีโอนาโด ไม่ใช่ที่ฝรั่งเศส!

ความเป็นจริงลีโอนาโดเป็นคนให้รูปนี้กับทางลูฟว์เอง เพราะเขามาทำงานที่ฝรั่งเศสให้กับฟรองซ์ซัวที่หนึ่ง พระราชาฝรั่งเศสที่ให้ความสำคัญกับศิลปะมาก ผู้ก่อตั้งโรงเรียนศิลปะชื่อดัง และเป็นเจ้าของลูฟว์ในตอนนั้นด้วย
ปล.ลีโอนาโดตายที่ฝรั่งเศส คาดว่ายกให้ก่อนตายนั้นแหละ

ส่วนที่บอกว่าเหมือนถูกมองไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของห้องไม่ได้มีเฉพาะโมนาลิซ่าที่ทำให้คุณรู้สึกอย่างนั้น รูป portrait ในยุคเดียวกันก็จะทำให้คนดูรู้สึกเหมือนกัน เป็นวิธีการวาดองศาของตาและใบหน้าที่ฮิตในยุคเรเนซองค์

ที่โมนาลิซ่ามีกระจกกั้นไม่เหมือนรูปอืนๆในห้องเดียวกัน (ทั้งๆที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน) เพราะเคยมีคนเคยโยนหินเคลือบกรดใส่ ทุกวันนี้รอยยังอยู่บนรูปภาพอยู่เลย
ปล.กระจกที่กั้นกันกระสุนได้ด้วย

ทุกวันนี้มีเทคโนโลยีมากพอที่จะกำจัดคราบออกและให้ภาพสวยขึ้น แต่โมนาลิซ่ามีมูลค่ามหาศาลจึงไม่มีบริษัทไหนยอมรับความเสี่ยง บวกกับเวลาที่ลูฟว์ไม่สามารถเสียไปกับการยกโมนาลิซาออกมาทำความสะอาดได้ เพราะลูฟว์จะไม่มีโมนาลิซาแขวนโชว์ไม่ได้ จำนวนนักท่องเที่ยวคงหายไปมากกว่าครึ่ง

เพิ่มเติม Leonardo da Vinci นับเป็นอัฉริยะ เขาไม่ได้เป็นแค่ศิลปิน ยังเป็นสถาปนิก นักประดิษฐ์คิดค้น สนใจหลากหลายแขนง วิทย์ คณิต ดนตรี
หลายคนยกเครดิต เฮลิคอปเตอร์,รถถัง,ร่มพาราชู้ต ฯลฯ ให้ลีโอนาโด แต่การที่เขาเลือกที่จะพาโมนาลิซ่าเดินทางไปทุกทีกับเขาจนตาย เลยทำให้ภาพนี้มันพิเศษ

แปะผลงานอื่นๆให้
-Lady with an Ermine
-La belle ferronnière
-Head of a woman
-St. John the Baptist

**เกล็ดเล็กน้อย!! ที่หลายคนไม่เคยรู้ da vinci ไม่ใช่นามสกุลของ Leonardo เพราะเค้าเกิดที่เมือง vinci แคว้น Toscana คำว่า da แปลเหมือน of ของภาษาอังกฤษ อ่านจากบทความในภาษาอิตาเลียน เค้าบอกว่าในความเป็นจริงแล้วนามสกุลของคนอิตาเลียนถูกใช้หลัง Leonardo ตายไปแล้ว 40ปี

Vinci เป็นเมืองเล็กๆในเขตฟลอเรนซ์ค่ะ ก่อนหน้าการใช้นามสกุลจะใช้การต่อท้ายด้วยชื่อของพ่อค่ะ อย่างLeonardo เป็นลูกของ ser Piero di Antonio ดังนั้นแท้ที่จริงแล้วควรเป็น Leonardo di ser Piero ในบทความยังกล่าวว่า หากลีโอมีลูกก็จะใช้ di Leonardo ต่อท้าย ไม่ใช่ Da Vinci

ขอขอบคุณจากใจ นายตะขบ!!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *