นครรัฐวาติกัน (อังกฤษ: State of the Vatican City; อิตาลี: Stato della Città del Vaticano) เป็นนครรัฐที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลซึ่งน้อยที่สุดในโลกทั้งในแง่พื้นที่และประชากร ตั้งอยู่ในกรุงโรม ประเทศอิตาลี เป็นที่ประทับของพระสันตะปาปา ซึ่งเป็นประมุขสูงสุดแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิก ศูนย์กลางคือมหาวิหารนักบุญเปโตร ซึ่งออกแบบโดยมีเกลันเจโลการปกครองเป็นแบบอำนาจเบ็ดเสร็จ อำนาจตกอยู่ที่พระสันตะปาปาเพียงผู้เดียว จะหมดวาระก็ต่อเมื่อสิ้นพระชนม์ พระองค์ปัจจุบันคือสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งได้รับเลือกเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2556
มหานครปารีส ในมุมมอง ที่ นกเห็นฯ
ปารีส (ฝรั่งเศส: Paris /paˈʁi/ ปารี) เป็นเมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส ตั้งอยู่บนแม่น้ำแซน บริเวณตอนเหนือของประเทศฝรั่งเศส บนใจกลางแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์ (Île-de-France หรือ Région parisienne (RP) ) ภายในกรุงปารีสมีประชากรประมาณ 2,167,994 คนเขตเมืองปารีส (Unité urbaine) ซึ่งมีพื้นที่ขยายเกินขอบเขตอำนาจการปกครองของเมืองนั้น มีประชากรกว่า 9.93 ล้านคน (พ.ศ. 2547)ในขณะที่เขตมหานครปารีส (Agglomération parisienne) มีประชากรเกือบ 12 ล้านคนและเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประชากรสูงที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป
จากการตั้งถิ่นฐานมากว่า 2 พันปี ปัจจุบันกรุงปารีสเป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่ล้ำสมัยแห่งหนึ่งของโลก และด้วยอิทธิพลของการเมือง การศึกษา บันเทิง สื่อ แฟชั่น วิทยาศาสตร์และศิลปะ ทำให้กรุงปารีสเป็นหนึ่งในเมืองที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลกแคว้นอีล-เดอ-ฟร็องส์เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศฝรั่งเศส ด้วยจำนวนเงินกว่า 500.8 ล้านล้านยูโร (628.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งมากกว่าหนึ่งส่วนสี่ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศฝรั่งเศสในปี พ.ศ. 2548 กรุงปารีสยังเป็นสถานที่ทำการของบริษัทยักษ์ใหญ่ 36 บริษัทจากบริษัทยักษ์ใหญ่ 500 บริษัทจากการสำรวจของฟอร์จูน โกลบัล 500 (Fortune Global 500) อีกด้วยโดยเฉพาะย่านธุรกิจที่สำคัญแห่งหนึ่งของทวีปยุโรป ลา เดฟองซ์[12] ทั้งยังเป็นที่จัดงานนิทรรศการต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหประชาชาติ ฯลฯ ปารีสเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โด่งดังแห่งหนึ่งในโลก โดยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 30 ล้านคนต่อปีbกรุงปารีสเป็นหนึ่งใน 4 นครสำคัญของโลก อีกสามนครคือ ลอนดอน, โตเกียว และ นิวยอร์ก
กรุงอัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
นครหลวงแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง และดินแดนแห่งกังหันลม อัมสเตอร์ดัม (Amsterdam)
เป็นเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอัมสเทล(Amstel) เริ่มก่อตั้งประมาณคริสต์ศตวรรษที่ 12 ปัจจุบันเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ มีประชากรในเขตตัวเมืองประมาณ 742,000 คน ในยุคมืดของยุโรป Dark ages พื้นที่ที่เป็นอัมสเตอร์ดัมปัจจุบันนี้อดีตยังเป็นเพียงที่ว่างเปล่า ลุ่มหนองน้ำ ไม่เหมาะแก่การอยู่อาศัย ชนชาวดัชต์เป็นผู้พลิกพื้นผืนดินให้กลายเป็นบ้านเมืองแห่งแรกขึ้นในต้นศตวรรษที่ 13 จนกลายมาเป็นเมืองแห่งพ่อค้าวาณิชที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก อัมสเตอร์ดัมตั้งขึ้นในที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ IJ และ Amstel ชื่อเมืองจึงมาจากคำว่า Amstel+dam เป็น Amsterdam ปัจจุบัน Amsterdam เป็นเมืองหลวงของ provincie Noord-Holland และเมืองหลวงของประเทศเนเธอร์แลนด์ อัสเตอร์ดัมมีคลองถึง 165 คลอง ทำให้จำนวนสะพานมีมากถึงถึง 1281 สะพาน แถมยังมีบ้านเรือที่ลงทะเบียนถูกต้องไว้ถึง 2500 หลัง บ้านเรือเหล่านี้มีไฟฟ้า น้ำประปาและแก๊สใช้เหมือนกับบ้านบนบกทั่วไป ในศตวรรษที่ 13 มีการสร้างเขื่อนขึ้นกั้นน้ำในที่ที่เป็นจตุรัส Dam square Damrak จึงเป็นจุดเริ่มต้นของท่าเรืออัมสเตอร์ดัม ในยุคนั้นการค้าเบียร์เป็นชื่อเสียงของอัมสเตอร์ดัม โดยการค้าส่วนใหญ่จะถูกส่งต่อไปยัง Hamburg เพื่อการขายต่อไปยังเขตยุโรปตะวันออก ในช่วงกลางศตวรรษที่ 15 อัมสเตอร์ดัมกลายมาเป็นเมืองท่าเรือที่รุ่งเรืองและมีประชากรมากที่สุดแห่งหนึ่งในตอนเหนือของยุโรป ส่วนในช่วงสงครามสเปน มีพ่อค้า Antwerpen อพยพมาอยู่ในอัมสเตอร์ดัมมากมาย พร้อมกับยิวชาวโปรตุเกส เป็นการช่วยสนับสนุนการค้าขายและการขยายเมืองวาณิชของเนเธอร์แลนด์ในช่วงยุคทอง จากนั้นอัมสเตอร์ดัมก็ยัง เจริญต่อมาไม่หยุดในยุคปฏิวัติอุสตสาหกรรม จนถึงปัจจุบันนี้ครับ
อดีตเรือดำน้ำของไทย 4 ลำ ที่ปลดประจำการณ์ แล้ว เมื่อ 30 พฤศจิกายน 2494
1.เรือหลวงมัจฉาณุ 2
2.เรือหลวงวิรุณ
3.เรือหลวงสินสมุทร
4.เรือหลวงพลายชุมพล
……………………………………………………………..
เรือดำน้ำของไทย?เรือหลวงมัจฉาณุ (ลำที่สอง)
ประเภท : เรือดำน้ำ
ระวางขับน้ำ : น้ำหนักบนผิวน้ำ 374.5 ตัน น้ำหนักขณะดำ 430 ตัน
ขนาด : ความยาวตลอดลำ 51 เมตร ความกว้างสุด 4.1 เมตร สูงถึงหลังคาหอเรือ 11.65 เมตร
กินน้ำลึก : กินน้ำลึก 3.6 เมตร
อาวุธ : ปืนใหญ่ 76 มม. 1 กระบอก ปืน 8 มม. 1 กระบอก ตอร์ปิโด 45 ซม. 4 ท่อ
เครื่องจักร : เครื่องจักรใหญ่ชนิดดีเซล 2 เครื่อง ๆ ละ 8 สูบ กำลัง 1,100 แรงม้า เครื่องไฟฟ้ากำลัง 540 แรงม้า (ใช้เดินใต้น้ำ)
ความเร็ว : ความเร็วมัธยัสถ์ 10 นอต
รัศมีทำการ : รัศมีทำการ 4,770 ไมล์
ทหารประจำเรือ 33 คน (นายทหาร 5 พันจ่า-จ่า 28)
เรือนี้ต่อที่อู่ บริษัท มิตซูบิชิ เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ.2479
เมื่อครั้งกรณีพิพาทอินโดจีนฝรั่งเศส หลังจาก เรือหลวงธนบุรี และเรือตอร์ปิโด ถูกเรือฝรั่งเศส ยิงจมแล้ว เรือหลวงมัจฉาณุ เรือหลวงวิรุณ เรือหลวงสินสมุทร และเรือหลวงพลายชุมพล ได้ไปลาดตระเวนเป็น 4 แนว อยู่หน้าบริเวณฐานทัพเรือเรียมของอินโดจีนฝรั่งเศส ใช้เวลาดำอยู่ใต้น้ำทั้งสิ้นลำละ 12 ชั่วโมง ขึ้นไป นับเป็นการดำที่นานที่สุด ตั้งแต่ได้เริ่มมีหมวดเรือดำน้ำมาจนกระทั่งได้ถูกยุบเลิกไป ?วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
เรือหลวงวิรุณ
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงู
วันที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2479 เรือลงน้ำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
เรือหลวงสินสมุทร
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงูพร้อมกับ เรือหลวงพลายชุมพล
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 เรือลงน้ำพร้อมกับ เรือหลวงพลายชุมพล
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
เรือหลวงพลายชุมพล
เรือนี้เป็นเรือพี่น้องของ เรือหลวงมัจฉาณุ สร้างแห่งเดียวกัน โดยสัญญาเดียวกัน
วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2479 วางกระดูงู
วันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2480 เรือลงน้ำ
วันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2481 เดินทางมาถึงประเทศไทย
วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2481 ขึ้นระวางประจำการ
วันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ปลดระวางประจำการ
รวมสำนวน Out ที่เราไม่คาดคิดว่าจะใช้บ่อยถึงปานนี้!
Out of Date : ไม่ทันสมัย หรือ ล้าสมัย
Out of Luck : ไม่มีโชค หรือ โชคไม่ดี เอาเสียเลย
Out of Order : เสีย หรือ พัง
Out of Reach : ไกลเกินเอื้อม
Out of Stock : สินค้าหมด
Out of The Question : เป็นไปไม่ได้หรอก หรือ ไม่มีทางหรอก
Out of The Woods : พ้นจากภยันตราย หรือ พ้นจากอันตราย หรือ พ้นขีดอันตราย
Out of Touch : ไม่ได้ติดต่อกันนาน หรือ ขาดการติดต่อ
หวังว่าเพื่อนๆ คงจำกันได้ และนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันกันนะครับ!